ท่องเที่ยวทั่วไทย กำไรชีวิต

แคมป์คาร์ อีกรูปแบบของการท่องเที่ยวที่น่าลองสัมผัส

Home
กลับหน้าแรก
แคมป์คาร์
อุปกรณ์แคมปิ้ง
webboard

 

           แน่ละครับชื่อมันก็บอกอยู่แล้ว ว่ากิจกรรมนี้ต้องมี"รถ"เป็นส่วนประกอบหลัก  แต่จะเป็นรถอะไรนั้นไม่เกี่ยงเพียงแต่ขอให้ มันพาคุณ(หรือคุณพามัน)ไปถึงจุดหมายปลายทางได้อย่างปลอดภัยไร้กังวลก็พอแล้ว

           ส่วนรายละเอียดปลีกย่อยนั้นคุณคงต้องพิจารณาดูเองละครับ ว่ารถของคุณเป็นประเภทไหน สภาพเป็นไง ความพร้อมในการเดินทางไกลพอไหวมั๊ย ฯ  อะไรทำนองนั้น  อย่างผมใช้รถเก๋ง4ประตูขนาดกลางสภาพเก่าถึงเก่ามากผมก็มักจะวางแผนการเดินทางเอาไว้ไม่เกิน400กม.(ไป-กลับ ก็800แล้วนะครับ)  ไม่ขึ้นเขาสูงชันมากโดยเอายึดทางขึ้น"เขาใหญ่"ด้านปากช่องเป็นเกณฑ์  คือ สูงชันคดเคี้ยวกว่านี้ก็จะหลีกเลี่ยงแล้วครับ   ส่วนเส้นทางประเภท offroadนั้นตัดไปได้เลย อย่างมากแค่ทางลูกรังขรุขระ ตามชนบททั่วไปก็พอไหว  แต่ถ้ารถคุณใหม่,ดีและเป็นประเภทoffroadด้วยแล้วละก็คุณสนุกกว่าผมแน่นอน

             พ้นจากเรื่องพาหนะไปแล้วทีนี้มาถึงสถานที่ที่จะไป  เมืองไทยเราเดี๋ยวนี้ถนนหนทางดีขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก ยิ่งเดี๋ยวนี้มี อบต.นี่แต่ละตำบลแข่งขันกันน่าดูครับถนนดินถนนลูกรังค่อยๆถูกเทคอนกรีตหรือราดยางกันจนเกือบหมดแล้วจึงทำให้การเดินทาง พ.ศ.นี้ดูจะสะดวกสบายขึนแยะเชียวครับ  สถานที่ที่น่าไปก็มีหลายที่เหมือนกัน เช่น ริมหาดชายทะเล ชะอำ หาดจอมเทียน  หาดแม่รำพึง  หรือถ้าอยากได้เงียบๆหน่อย ก็ลองดู หาดคุ้งวิมาน จันทบุรี  อ่าวตาลคู่ จ.ตราด     หรือถ้าเป็นหน้าหนาวน่าจะลองดูแถวๆริมอ่างเก็บนํ้าหรือริมแม่นํ้า  เช่น  ลำตะคอง  เขื่อนท่าทุ่งนา เขื่อนเขาแหลม  อ่างซับเหล็ก

                    ยังมีอีกเยอะแยะมากมายครับ ยังไม่รวมถึงในเขตอุทยานแห่งชาติ อีกทั่วประเทศ  บางท่านถามว่าทำไมไม่นอนตามรีสอร์ทหรือที่พักของทางอุทยานฯต่างๆ  ก็ไม่ใช่ว่าจะ"งก"จนเกินเหตุหรอกครับ  เพียงแต่อยากจะสัมผัสธรรมชาติที่อุตส่าห์ลงทุนลงแรงขับรถไปตั้งไกล  แล้วการไปเช่าบ้านเขานอนนี่ไอ้อย่างที่ดีๆมันก็แพงแถมยังต้องจองกันล่วงหน้าโดยเฉพาะช่วงเทศกาลวันหยุดยาวๆ   ไอ้ที่ถูกๆหน่อยก็ไม่ไหวครับ  ส่วนบ้านพักของทางอุทยานฯ นั้นก็พอได้อยู่ราคายุติธรรมแบบค่อนข้างถูก แต่มักจะจองยากเหมือนกันแถมยังต้องไปชำระเงินเองที่กรมป่าไม้   เลยคิดว่ากางเต็นท์หรือผูกเปลนอนข้างรถดีกว่า

                   ถ้าไปนอนกันคืนสองคืนนี่ง่ายมากครับ ของที่ต้องเตรียมไปก็ไม่มีอะไรมาก ยิ่งถ้าไปกันน้อยๆคนเช่นครอบครัวเดียว3-4คนนี่สบายเลยครับเตรียมพวกขนม,ของกินเล่นไปเยอะหน่อยส่วนอาหารมื้อหลักก็หาซื้อกินเอาๆไม่ต้องหุงหาให้เหนื่อยแต่ถ้าคุณอยากจะโชว์ฝีมือให้ลูกๆประทับใจก็ย่อมได้ครับ

                   เครื่องนอนก็คงเป็นเต็นท์,เปล พวกหมอน ผ้าห่มก็แล้วแต่ความจำเป็นครับ บางท่านถ้าเปลี่ยนหมอนแล้วนอนไม่หลับอย่างนี้ก็เอาไปด้วยเถอะครับเดี๋ยวจะไม่ได้นอน  แต่ถ้าไปกันแบบกลุ่มใหญ่หน่อย มีรถร่วมขบวน3-4คันขึ้นไปนี่ มื้อหนักๆอย่างมื้อเย็นนี่ ลองหาของสดไปทำกินแบบง่ายๆ ประเภทปิ้งๆย่างๆ ทำไปกินไปคุยกันไปก็สนุกและถูกกว่าไปนั่งกินตามร้านนะครับพวกภาชนะ จานช้อนอาจจะใช้เป็นแบบกระดาษใช้เสร็จทิ้งลงถุงดำได้เลยครับ

                  เรื่องเชื้อเพลิงและอุปกรณ์ส่องสว่างยามคํ่าคืนก็ไม่ต้องห่วงครับ เดี๋ยวนี้สบายมาก  ถังแกสขนาดเล็กแบบปิคนิค เมื่อก่อนมีขนาด4กก.ค่อนข้างหนักและเหลือใช้ไปหน่อยตอนนี้มีขนาด2และ1กก.ออกมาขายด้วยครับ ราคาพร้อมหัวเตา7-8ร้อยบาทใส่ท้ายรถไปได้สะดวกเชียวครับ  ถ้าพอมีงบอีกหน่อยซื้อหัวตะเกียงไปด้วยเลยนะครับอีก3ร้อยกว่าบาท ใช้ทำกับข้าวเสร็จ เอามาจุดตะเกียงได้อีกทั้งคืนแกส2กก.ยังไม่หมดเลยครับ

                  ยุคนี้หมดสมัยแล้วครับที่เวลาตั้งแคมป์แล้วจะต้องไปเที่ยวเดินท่อมๆหาไม้มาทำฟืนเพื่อก่อกองไฟเพื่อทำอาหาร,ให้แสงสว่างและความอบอุ่น ใครขืนก่อกองไฟระวังจะถูกมองเป็นตัวประหลาดไปนะครับยิ่งในเขตอุทยานฯหลายแห่งออกระเบียบห้ามก่อกองไฟแล้วนะครับ  ถึงแม้คุณจะเตรียมฟืนหรือเชื้อเพลิงไปเองก็ตามเถอะแต่สิ่งที่ก่อความรำคาญแก่ผู้อื่นอีกอย่างก็คือควันและกลิ่น  ลองคิดดูนะครับถ้าบริเวณเดียวกันมีคนไปตั้งแคมป์20กลุ่มก่อกองไฟ20กองจะเป็นยังไงผมเคยเจอมาแล้วครับที่ผากล้วยไม้เขาใหญ่นี่เอง จนเดี๋ยวนี้ไม่รู้ว่าห้ามก่อกองไฟรึยัง เรื่องนี้สำคัญจริงๆนะครับต้องขอร้องกันไว้เลย  ถ้าไม่ช่วยกันวันนี้วันหน้าจะเสียใจนะครับ

                   ทีนี้มาว่ากันในแง่ของความปลอดภัย  โยเฉพาะเมื่อไปกันแบบคันเดียวครอบครัวเดียวนี่ หลายท่านคงจะมองว่าน่ากลัว ก็จริงครับอันนี้เราต้องเลือกทำเลกันดีๆหน่อย บางทีตอนที่เราไปถึงมีผู้คนเยอะแยะเราก็จัดแจงกางเต็นท์  พอเริ่มเย็นใกล้คํ่าค่อยๆหายกันไปหมดพอหมเแสงก็หมดคนเมื่อความมืดมาเยือนและเหลือเพียงครอบครัวเรา3-4คนทีนี้ก็วังเวงละครับแถมยังไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น  ตรงนี้ละครับที่คุณจะต้องหาข้อมูลให้ดีก่อนจะเลือกทำเล   ครั้งหนึ่งหลายปีมากแล้วผมเห็นทำเลริมลำตะคองสวยมากและไร้ผู้คนก็ลงไปตั้งแคมป์กันไปกัน5-6คนผู้ชายล้วน  พอเย็นๆชาวบ้านที่พายเรือหาปลาแถวนั้นเข้ามาบอกให้ย้ายแคมป์เข้าไปใกล้หมู่บ้านหน่อยเพราะวันสองวันมานี่มีคนร้ายหนีการจับของตำรวจมากบดานอยู่แถวนี้  ด้วยความห้าวของพวกเราจึงไม่เชื่อชาวบ้าน พอดึกหน่อยก็ได้เรื่อง  ชายฉกรรจ์3คนอาวุธครบมือปรากฎกายขึ้นหน้าแคมป์เรา   ดีที่ยังพอคุยกันรู้เรื่องและมีแต่ผู้ชายล้วนๆ พวกเขาไม่ทำอะไรแต่ขออาหารทั้งหมดที่เรามีเป็นอันว่าคืนนั้นเราไม่มีอะไรเหลือ  ยังโชคดีที่ไม่มีอะไรหนักหนาไปกว่านั้น

                  จึงอยากจะให้ระมัดระวังกันให้มากนะครับไม่เฉพาะเวลาตั้งแคมป์หรอกแม้แต่ไปพักตามบ้านพักหรือรีสอร์ทก็ระวังไว้หน่อยนะครับ

                  จบภาคแรก