ทริปสนุกบนเขาใหญ่
กับเสือ 12 ตัว
มาอีกแล้วครับ
Trip report เพื่อเก็บบันทึกความทรงจำของพวกเรา
คราวนี้ก็ตามชื่อเรื่องละครับเพราะคิดไม่ออกเหมือนกันว่าจะตั้งชื่อยังไงให้มันน่าติดตามกว่านี้
เรียกว่าพอเริ่มต้นก็หมดมุขเลยเอาเป็นว่าเข้าเรื่องเลยแล้วกัน
ครั้งนี้เราใช้พาหนะกันน้อยคันกว่าเดิม
นัดหมายกันที่ปั๊มใหญ่ที่สุดในโลกเลยรังสิตไปหน่อยนัดกันตีสี่ครึ่งมาครบคันเอาเกือบหกโมงเช้าละครับ
พอครบก็ออกเดินทางทันทีตรงดิ่งตียาวเลย
ใช้เวลาชั่วโมงกว่าๆ
ขบวนเราก็มาจอดตรงด่านเก็บค่าธรรมเนียม
เพื่อคอยสมาชิกอีกท่านที่ล่วงหน้ามานอนค้างอยู่แถวนี้
เลยถือโอกาสกระจายรายได้ด้วยข้าวเหนียวไก่ย่างร้อนๆ
กันก่อนตามสูตรของนักเมาเทนไบค์ที่ดี
ต้องให้ท้องอิ่มก่อน
ขาถึงจะมีแรง
จนอิ่มกันถ้วนหน้า
มุ่งหน้าขึ้นเขาใหญ่กันเลย
วันนี้เป็นวันอาทิตย์รถราค่อนข้างเยอะ
เรามาขึ้นทางปากช่อง
ที่คนส่วนใหญ่เขาใช้เป็นทางลงกัน
เลยต้องคอยระวังกับรถที่สวนลงมาอยู่ตลอด
แต่ก็ไม่มีปัญหาอะไร
ทีมเราไม่รีบอยู่แล้ว
ขบวนเราขับเลยที่ทำการอุทยานฯและศูนย์บริการนักท่องเที่ยวมาเพราะไม่มีอะไรจะให้เขาบริการ
เลยมาจอดกันบริเวณที่เรียกว่าโภชนาคารเก่าแต่ปัจจุบันดัดแปลงเป็นห้องประชุม,จัดเลี้ยงไปแล้ว
ที่จอดรถกว้างขวางและว่างกว่าตรงที่ทำการอุทยานฯเยอะเลย
ทีนี้ก็จัดการประกอบรถเช็ครถกันก่อนครับ
ตามระเบียบของนักปั่นที่ดีรถใครรถมันเช็คกันเองดูกันเองจะได้สบายใจ
ทุกคนชักเริ่มชำนาญกันดีแล้วสลัดคราบของมือใหม่ออกเริ่มจะดูคล่องแคล่วกันมากขึ้น
มีมือใหม่ติดกลุ่มมาเปิดตัวด้วย
2-3
คันก็ช่วยกันดูแลจนเรียบร้อย
ตกลงกันว่าเราจะปั่นขึ้นเส้นทาง
ผากล้วยไม้-เหวสุวัตร
ซึ่งจัดว่าเป็นเส้นทางที่ค่อนข้างโหดของเขาใหญ่
แทนที่จะเลือกกินลมชมวิวกับเส้นทาง
มอสิงโต-สนามกอล์ฟเก่า
ก่อนจะออกเดินทาง
ก็มีรถปิคอัพ4วีลใหม่เอี่ยมกระบะท้ายมีmtb.2คันเข้ามาจอดข้างๆกลุ่มรถเรา
นึกว่าใครที่ไหนพอลงจากรถมากลายเป็นคุณ
เศกสรรค์ บก.หนังสือ MBT
นี่เองสอบถามดูเห็นว่ามาทำทริปไปลงหนังสือ
วางโปรแกรมมาว่าจะขึ้นเขาเขียว
แล้วขี่ลงมาแล้วลงต่อทางด้านปราจีนฯเลย
คุยกันไปคุยกันมาซักพักก็เลยกลับใจจะไปร่วมแจมกับเราด้วยกันก่อน
ก็แจ๋วซิครับงานนี้จะได้ครบมีตั้งแต่มือโปรฯแท้อย่างคุณเศก
มือโปรฯเก๊ๆอย่างเราจนถึงมือใหม่ถอดด้ามที่เพิ่งจะขี่เสือภูเขาเป็นครั้งแรกในชีวิตวันนี้
ที่นี่!!!!
ก่อนจะล้อหมุนต้องรวมฝูงถ่ายรูปกันก่อนตามธรรมเนียม
เสร็จแล้วจึงเริ่มเคลื่อนขบวนกันทันที
ทางช่วงแรกขึ้นลงเนินเตี้ยๆเป็นการวอร์มอัพไปในตัว
ไปได้ซักพัก
สมาชิกใหม่คนนึงก็ทำท่าจะแย่เพราะเอาMarawuti24นิ้วเก่าๆมาลองดู
เบรคติดมั่งโซ่หลุดมั่ง
มาเรื่อยๆรอๆกันไป
จนเริ่มเข้าสู่ทางที่เป็นเนินขึ้น-ลงยาวๆพวกมือเก่าก็สนุก
กลุ่มมือใหม่ก็ทุลักทุเลกันมาเรื่อย
จนมาถึงแค้มป์ผากล้วยไม้กันได้อย่างครบถ้วน
ช่วงแรกนี่มีการล้มลุกคลุกคลานกันมั่งนิดหน่อยพอเฮฮาครับ
ที่ผากล้วยไม้เราพบกับทีมชมรมดอนเมืองที่มากันตั้งแต่เมื่อวานและตั้งแคมป์กันอยู่ทีนี่ยกครอบครัวมาเที่ยวกันด้วย
ระหว่างที่รอกลุ่มหลังก็พุดคุยทักทายทำความรู้จักกันเป็นทีครื้นเครง
รู้สึกว่าจะยังมีอีก2-3กลุ่มที่ลานแค้มปิ้ง2แต่เป็นกลุ่มเล็กๆ
และกำลังขนของขึ้นรถกันอยู่เลยไม่ได้ทักทายกัน
วันอาทิตย์บนเขาใหญ่เดี๋ยวนี้เสือชุมมากแต่เป็นเสือภูเขานะครับไม่ใช่เสือโคร่ง
ทีแรกกะจะตั้งชื่อเรื่องผจญฝูงเสือบนเขาใหญ่
อยู่แล้วเชียวแต่เกรงว่าจะเวอร์ไปหน่อยเลยใช้ชื่อเบสิคๆดีกว่า
มากันจนครบพักกันพอหายเหนื่อยก็ออกปั่นกันต่อ
คราวนี้น้องใหม่Marawutiได้รับความอนุเคราะห์จากคุณเศกMBT.ให้ยืมMarin
fullsus มาขี่เลยค่อยยังชั่วหน่อย
เส้นทางช่วงที่สองจากผากล้วยไม้-เหวสุวัตร
ตอนแรกๆเป็นทางลงเขายาวๆหลายช่วงแต่โค้งเยอะและรถยนต์ก็ขึ้น-ลงกันขวักไขว่ไปหมดเรียกว่าใครมาเขาใหญ่ก็ต้องมาที่นี่กันทั้งนั้นละครับ
ก็ขี่ดมควันรถกันมาเรื่อยๆจนถึงเนินสูงชันก่อนถึงเหวสุวัตร
สมาชิกที่แรงดีค่อยๆทยอยปั่นลากเกียร์ต่ำไปเรื่อย
คนไหนแรงน้อย(อย่างผม)ก็ต้องลงจูงกันนิดหน่อย
กัดฟันกันจนถึงยอดเนินทิ้งดิ่งลงหุบอีกทีเดียวก็ถึงแล้วน้ำตกเหวสุวัตร
เป็นน้ำตกที่ผมไม่เคยคิดอยากจะมาเลย
ในสมัยทียังไม่ได้ขี่เสือภูเขาเพราะมาบ่อยมากทั้งในช่วงวัยรุ่นและวัยเริ่มทำงานมาถึงทีไรถ้าเป็นช่วงวันหยุดก็จะคราคร่ำไปด้วยผู้คน(เช่นวันนี้)ราวกับมีงานมหกรรมเชียวละ
แต่มาถึงวันนี้ก็ยังดีที่มีการจัดการที่ดีขึ้นมีการจัดระเบียบร้านอาหาร,ที่จอดรถ,ถังขยะและปรับปรุงด้านความสะอาด
ไม่ได้ว่าอะไรหรอกครับคนที่ไม่เคยเขาก็อยากไปเป็นธรรมดา
เราเคยไปบ่อยแล้วก็แล้วไป
แต่เพิ่งมานึกอยากจะมาเยือนอีกทีก็ตอนขี่เสือภูเขานี่แหละอยากจะลองดูน่ะครับว่าขนาดรถยนต์จะขึ้นกันทียังต้องอัดกันจนควันโขมงแล้วถ้าขี่จักรยานขึ้นไปมันจะเป็นยังไง?
พอมาถึงกันครบทุกคันก็พักผ่อนยืดเส้นยืดสายกันพอให้กล้ามเนื้อคลายตัว
เติมน้ำกันเต็มกระติกก็ตั้งขบวนกลับ
พักนานนักไม่ได้ครับอันนี้เป็นเคล็ด(ไม่ลับ)เหมือนกับกีฬาอื่นๆ
ถ้าพักนานไปจะเพลียและหมดแรงไปเลย
ที่สำคัญขากลับนี่เราต้องขึ้นมากกว่าลงเยอะ
แล้วก็เป็นอย่างที่คิดทุกเนินที่เราทิ้งดิ่งลงมาอย่างสนุกสนานตอนขามา
ตอนนี้มันทวงหนี้เราคืนอย่างสะใจ
กว่าจะหลุดมาได้แต่ละเนินใครที่ไม่เคยรู้จักคำว่าเหนื่อยสายตัวแทบขาดว่ามันเป็นยังไงลองมาขี่ดูเถอะครับ
ขบวนเริ่มทิ้งช่วงกันอีกแล้ว
หัวขบวนก็เลยจอดรอที่ผากล้วยไม้กันอีกครั้ง
พอครบก็ไปกันต่อคราวนี้ขึ้นๆลงๆพอกันเนินยาวเนินสั้นทั้งขี่ทั้งเข็น
พวกโปรมากหน่อยก็กัดฟันดันเนินขึ้นไปเรื่อยพวกโปรน้อยก็ขี่ๆเข็นๆไปตามเรื่อง
จนกลับมาถึงจุดจอดรถได้ครบโดยสวัสดิภาพทุกคัน
รวมระยะทางไป-กลับประมาณ 18
กม.เท่านั้นเองแต่เป็น18กม.ที่ไม่ธรรมดาหรอกครับดูจากรอยยิ้มและแววตาแห่งความภาคภูมิใจของมือใหม่ที่เพิ่งขี่ครั้งแรกก็รู้
สรุปว่า สอบผ่าน!!!
หลังจากแพคของขึ้นรถกันเรียบร้อยเวลาก็ล่วงเลยมาจนเที่ยงกว่าแล้ว
ทางกองบก.MBT เลยฃอสัมภาษณ์กึ่งพูดคุยกันถึงความเป็นมาของทีมเราหน่อยว่าไปไงมาไง
ทำงานทำการกันอยู่ดีๆถึงได้หาเรื่องมาตกระกำลำบากกันอย่างนี้
นั่งคุยสนุกสนานเฮฮาซักพักก็ต้องร่ำลา
เพราะทางกลุ่มคุณเศกยังจะต้องดำเนินงานต่อตามโปรแกรมเดิม
ส่วนพวกเราก็เริ่มหิวกันแล้วจึงแยกทางกันตรงนั้นเป็นอันสิ้นสุดทริปสั้นๆวันหยุดที่แสนสนุกแบบค่อนข้างโหดลงอย่างสมบูรณ์แบบ
ก่อนจบก็ต้องขอขอบคุณเพื่อนๆร่วมทีมทุกท่าน
ขอบคุณคุณเศกสรรค์
อรุณพงษ์และทีมงานMBT
ขอบคุณข้อมูลเส้นทางเพิ่มเติมจากเพื่อนๆชมรมดอนเมือง
ขอบคุณรอยยิ้มและกำลังใจจากนักท่องเที่ยวผู้ร่วมบนเส้นทางกับเราทุกท่าน |